วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ชั่วฟ้าดินสลาย : Thai Movie Uncut



เรื่องย่อ

ชั่วฟ้าดินสลายเป็นโศกนาฏกรรมรักของชายหนุ่ม-หญิงสาวคู่หนึ่ง ที่เชื่อกันว่าจะรักกันตราบชั่วฟ้าดินสลาย
นายห้างพะโป้ (เอม สุขเกษม) เป็นชายชราเจ้าของปางไม้แห่งจังหวัดกำแพงเพชร เพิ่งแต่งงานใหม่กับ ยุพดี (งามตา ศุภพงษ์) สาวสวยทันสมัยจากในเมือง พะโป้พายุพดีมาอาศัยที่ปางไม้ห่างไกลผู้คน ณ ที่นี้เธอได้พบกับ ทิพย์ (ประจวบ ฤกษ์ยามดี) คนสนิทของนายห้าง และ ส่างหม่อง (ชนะ ศรีอุบล) หลานชายหนุ่มฉกรรจ์ของพะโป้
ยุพดี ชอบเข้ามาหยอกล้อเล่นหัวกับส่างหม่อง ตามแบบหนุ่มสาว จนเกิดลักลอบเล่นชู้ เพื่อให้เป็นความต้องการของยุพดีที่ว่า เราจะรักกันชั่วฟ้าดินสลาย จนรู้กันไปทั่วทั้งที่ทิพย์ก็พยายามตักเตือนแล้ว ในที่สุดนายห้างก็เห็นพิรุธ จับได้คาหนังคาเขาที่บังกะโลกลางป่า
พะโป้ออกปากยกยุพดีให้แก่ส่างหม่อง มีข้อแม้ว่า ถ้าพวกเอ็งอยากจะอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน อยากอยู่ด้วยกันชั่วฟ้าดินสลาย ข้าก็จักให้พวกเอ็งได้สมมาตรปรารถนา จับทั้งคู่ล่ามโซ่คล้องแขนไว้ด้วยกันตลอดเวลา
เมื่อทั้งสองต้องมาอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน รักที่หวานชื่นก็ขมขื่น ยุพดีเล่นเปียโนและร้องเพลง ชั่วฟ้าดินสลาย ให้ส่างหม่องฟังด้วยอารมณ์โรแมนติค ถึงความรักที่ไร้สถานะ ไร้กาลเวลา ยั่งยืนชั่วฟ้าดินสลายเหมือนอย่างในเพลง ฝ่ายส่างหม่อง ถูกบังคับให้อยู่แต่ในบ้าน โดยไม่ได้ออกไปทำงาน เขาก็หมดความอดทน สิ้นรัก เมื่อนายห้างพะโป้เสนอทางออกให้ด้วยความตาย เสนอให้ส่างหม่องและยุพดีใช้ลูกปืนเป็นกุญแจไขไปสู่อิสรภาพของทั้งสองคน ส่างหม่องก็ยอมรับทางเลือกนั้น
ส่างหม่องจึงเป็นฝ่ายปลิดชีพตัวเอง แล้วส่างหม่องจึงให้ยุพดียิงเขา แต่ยุพดียิงตัวเองตายแทน แสดงตนอย่างชัดแจ้งตั้งแต่ต้นว่าเธอรักในเสรีภาพ ส่างหม่องอุ้มร่างยุพดีมาเพื่อรับกุญแจ แต่พะโป้กลับปฏิเสธ ทิพย์จึงทนไม่ไหวที่เห็นเป็นแบบนี้ จึงเข้าไปขอกุญแจกับพะโป้ พะโป้กลับปฏิเสธเช่นกัน ส่างหม่องอุ้มร่างยุพดีออกไปอย่างความโศกเศร้า ทำให้คนงานในปางไม้ของพะโบ้รวมไปถึงทิพย์รับรู้ถึงความเหี้ยมโหดและการใช้อำนาจบาตรใหญ่ของพะโป้ ทำให้คนงานคนหนึ่งคว้าก้อนหินขว้างไปโดนภาพเหมือนของตัวพะโบ้จนทะลุเป็นรูโต พะโป้ก็เริ่มสำนึกตัวเองจึงเลือกจะลงโทษตัวเองด้วยเช่นกัน พะโป้จึงเผาบ้านและยิงตัวตายด้วยปืนกระบอกเดียวกับที่ยุพดีใช้ฆ่าตัวตายในท่ามกลางเปลวไฟที่กำลังเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง ทิพย์พยายามช่วยพะโป้แต่ไม่ทันเสียแล้ว ต่อมาส่างหม่องก็เป็นคนที่เสียสติ เป็นคนบ้า เพ้อถึงยุพดี ตลอดมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น